แล้วภาวะถุงน้ำภายในรังไข่ที่ผิดปกติ (PCOS) มีความเกี่ยวข้องต่อการมีบุตรอย่างไร ?
ทางคลินิก Deep & Harmonicare IVF Center จะมาตอบคำถามให้ในบทความนี้ค่ะ ต้องเท้าความก่อนว่าทางคลินิก Deep & Harmonicare IVF Center เป็นคลินิกที่ให้คำปรึกษาและรักษาผู้ที่มีปัญหาภาวะการมีบุตรยาก โดยวิธีการรักษาภาวะการมีบุตรยากก็จะมีหลายวิธี อาทิ กระบวนการการทำเด็กหลอดแก้ว ICSI / IVF หรือ จะเป็นวิธีการรักษาภาวะการบุตรยากที่มีความใกล้เคียงกับการมีบุตรแบบธรรมชาติอย่างกระบวนการทำ IUI ซึ่งทางคุณหมอจะใช้วิธีไหนในการรักษาคนไข้ก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสุขภาพร่างกายคนไข้ในแต่ละบุคคล
ก่อนที่ทางคุณหมอจะทำการรักษาคนไข้ คนไข้จะต้องผ่านขั้นตอนการอัลตร้าซาวด์ภาวะภายในรังไข่ก่อนว่ามีสุขภาพภายในรังไข่เป็นอย่างไร ? หรือ มีความผิดปกติหรือไม่ ? ถ้าหากว่าพบมีภาวะความผิดปกติภายในรังไข่ คุณหมอก็จะพิจารณาว่าควรจะใช้วิธีไหนในการรักษาคนไข้ ถ้าในกรณีของคนไข้ที่พบว่ามีปัญหาภาวะภายในรังไข่ที่ผิดปกติ อาทิเช่น พบติ่งเนื้อ หรือ ซีสต์ในโพรงมดลูก คุณหมอก็จะเลือกใช้วีธีการรักษาด้วย “วิธีกระบวนการ ICSI” แต่ถ้าในกรณีของคนไข้ที่ไม่พบความผิดปกติภายในโพรงมดลูก คุณหมอก็ใช้วิธีการรักษาด้วย “กระบวนการทำ IUI” เป็นต้น
(บรรยากาศห้องตรวจพีซีโอเอส)
ถ้าคนไข้ถูกตรวจพบว่ามีภาวะถุงน้ำภายในรังไข่ที่ผิดปกติ (PCOS) ก็จะส่งผลให้คนไข้มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ยากขึ้น แล้วคนไข้ที่มีปัญหาภาวะ (PCOS) ควรเตรียมตัวอย่างไรก่อนที่จะเข้ารักษาด้วยกระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว ? ก่อนอื่นคุณผู้หญิงที่ต้องการจะมีบุตรจำเป็นต้องเรียนรู้ก่อนว่าปัญหาภาวะ (PCOS) คืออะไร ? และมีผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง ?
ภาวะที่มีถุงน้ำภายในรังไข่ที่ผิดปกติ (PCOS) คือ ภาวะที่มีถุงน้ำภายในรังไข่เป็นจำนวนมาก หรือ การที่มีภาวะฮอร์โมนเพศหญิงที่ผิดปกติ เพราะว่ามีฮอร์โมนเพศชายมากกว่าผู้หญิงทั่วไป ทำให้มีภาวะไข่ตกที่ผิดปกติ ในแต่ละเดือนอาจจะมีอาการไข่ตกช้า หรือ อาจจะไม่มีไข่ตกเลย ส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงหลายอย่างตามมา ไม่ว่าจะเป็น ประจำเดือนมาไม่ปกติ มีสิวเกิดขึ้นตามกรอบหน้า น้ำเพิ่มง่ายขึ้น มีขนตามบริเวณร่างกายมากกว่าผู้หญิงทั่วไป และในอนาคตก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะมีภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกที่หนาขึ้น หรือ มีโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมา
ภาวะทีมี่ถุงน้ำภายในรังไข่ที่ผิดปกติ (PCOS) มีสาเหตุเกิดมาจากกรรมพันธุ์ ตัวอย่างเช่น คนที่มีพ่อแม่เป็นเบาหวานก็อาจจะส่งผลให้ลูกมีภาวะ PCOS ในอนาคต และผู้หญิงสามารถเริ่มตรวจภาวะ PCOS ได้ตั้งแต่เริ่มมีประจำเดือนครั้งแรก
(ภาพยากระตุ้นไข่)
คำแนะนำสำหรับผู้ที่กำลังเตรียมความพร้อมเพื่อที่จะมีบุตร – หลังจากที่ทราบว่ามีอาการ PCOS ควรเข้าไปปรึกษาคุณหมอเป็นอันดับแรก คุณหมอจะให้คำแนะนำว่า ทางคนไข้ควรเตรียมความพร้อมในการมีบุตรอย่างไร ? พร้อมกับคุณหมอก็จะมีการสั่งยากระตุ้นไข่ให้คนไข้ “ยากระตุ้นไข่” จะเป็นยาที่ใช้ในการกระตุ้นไข่ให้สมบรูณ์พร้อมกันหลายๆใบ เพื่อที่จะเตรียมพร้อมในการปฏิสนธิ(ทำเด็กหลอดแก้ว)ในกระบวนการขั้นตอนต่อไป โดยยากระตุ้นไข่จะมี 2 รูปแบบ ยากระตุ้นไข่แบบรับประทานกับแบบฉีดยา คุณหมอจะจัดยารูปแบบไหนให้ก็จะขึ้นอยู่กับว่าคนไข้มีสุขภาพเป็นอย่างไร แต่ในบางครั้งคุณหมอก็อาจจะพิจารณาจากปัจจัยด้านอื่นๆ ร่วมด้วย
หลังจากสิ้นสุดในขั้นตอนของการจัดยากระตุ้นไข่ให้กับคนไข้ คุณหมอก็จะมีการพิจารณาสุขภาพของฝ่ายชายร่วมด้วยว่ามีปัญหาในเรื่องสุขภาพของสเปิร์มหรือไม่ ถ้าเป็นในกรณีที่ทางฝ่ายชายไม่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพของสเปิร์ม และ ฝ่ายหญิงมีอายุไม่มาก แต่มีภาวะถุงน้ำภายในรังไข่ที่ผิดปกติ (PCOS) คุณหมอก็รักษาด้วยกระบวนการ iui แต่ถ้าเป็นในกรณีที่ทางฝ่ายชายมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพของสเปิร์ม คุณหมอก็รักษาด้วยกระบวนการ icsi
ไม่ใช่เพียงแค่กลุ่มของผู้หญิงที่ต้องการจะมีบุตรที่ควรเรียนรู้ว่าภาวะ (PCOS) คืออะไร แต่ผู้หญิงทุกคนก็สามารถเรียนรู้เรื่องนี้ได้ เพราะถ้าหากในอนาคตข้างหน้าตรวจพบว่ามีปัญหาภาวะ (PCOS) จะได้รู้ว่าควรดูแลตนเองอย่างไร และสำหรับกลุ่มผู้หญิงที่ไม่ต้องการจะมีบุตร แต่มีปัญหาภาวะ (PCOS) คุณหมอก็ได้แนะนำว่า เนื่องจากผู้หญิงกลุ่มนี้จะกังวลในเรื่องของการเป็นสิว ประจำเดือนมาไม่ปกติ การมีขนเกิดขึ้นตามร่างกายมากกว่าปกติ คุณหมอจึงแนะนำให้รับประทานยาคุม เพื่อทำการปรับฮอร์โมนให้มีฮอร์โมนเพศหญิงมากขึ้น หลังจากที่ฮอร์โมนในร่างกายถูกปรับ แล้ว อาการที่เกิดขึ้นตามข้างต้นที่ได้กล่าวไปก็จะมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยลง หรือ อาจจะไม่เกิดขึ้นเลย
(ภาพยาเครื่องตรวจอัลตราซาวด์)
และที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้เลย ก็คือ เครื่องตรวจอัลตร้าซาวด์รังไข่ของทางคลินิก Deep & Harmonicare IVF
Center เพราะถือว่าเป็น 1 ในเครื่องมือที่โดดเด่นของทางคลินิกเลยก็ว่าได้ เพราะทางคลินิกมีการตรวจภายในด้วยเครื่องมือที่ได้รับการรองรับมาตราฐานทางด้านความปลอดภัยและด้านความสะอาดที่ถูกสุขลักษณะอนามัย โดยคุณหมอจะนำถุงยางอนามัยที่ไม่มีสารหล่อลื่นสวมเข้าไปในแท่งเครื่องตรวจอัลตร้าซาวด์ แล้วค่อยๆสอดใส่เข้าไปภายในมดลูกรังไข่ของคุณผู้หญิง เพื่อตรวจหาอาการผิดปกติของรังไข่
นอกจากเครื่องอัลตร้าซาวด์รังไข่จะสามารถตรวจหาภาวะ PCOS ได้แล้ว ก็ยังสามารถตรวจหาภาวะความผิดปกติอื่นๆภายในมดลูกได้อีกด้วย อาทิเช่น ภาวะการมีติ่งเนื้องอกภายในโพรงมดลูก ภาวะช็อคโกแลตซีสต์ หรือ โรคมะเร็งปากมดลูก เป็นต้น
นอกจากนี้ เครื่องตรวจอัลตร้าซาวด์รังไข่ของทางคลินิก Deep & Harmonicare IVF Center ก็ยังจุดเด่นอื่นๆ
ที่ทำให้คนไข้รู้สึกประทับใจและเล่าสู่กันฟังในวงการของการทำเด็กหลอดแก้วว่า… “ที่นี้ขึ้นชื่อในเรื่องของการตรวจภายในด้วยเครื่องมือที่มืคุณภาพเป็นเลิศ”
จุดเด่นของเครื่องตรวจอัลตร้าซาวด์ที่ Deep & Harmonicare IVF Center มีดังนี้ ในขณะที่คุณหมอกำลังอัลตร้าซาวด์รังไข่ คนไข้สามารถเห็นภาพ “ภาวะภายในมดลูกรังไข่” ได้อย่าง realtime และคมชัดบนหน้าจอมอนิเตอร์ มีการวินิจฉัยผลตรวจได้อย่างแม่นยำ แล้วสิ่งที่ทำให้คนไข้ประทับใจและตอบโจทย์กับความต้องการของคุณผู้หญิงมากที่สุด ก็คือ การตรวจอัลตร้าซาวด์มีอาการเจ็บน้อยกว่าการตรวจภายในแบบเดิม เพราะว่าเครื่องตรวจที่จะสอดใส่เข้าไปในช่องคลอด มีขนาดที่ค่อนข้างเล็ก และทางคุณหมอก็มีการทาเจลแบบไม่ระคายเคืองผิวลงบนถุงยางอนามัยเพื่อลดการเสียดสี ทำให้คนไข้รู้สึกเจ็บน้อยลง
ภาวะ PCOS ไม่ใช่โรคที่ร้ายแรง แต่ว่าคุณผู้หญิงก็ไม่ควรละเลยที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับโรคนี้ เพราะว่าในปัจจุบันมีกลุ่มผู้หญิงจำนวนมากที่มีภาวะถุงน้ำภายในรังไข่ที่ผิดปกติ (Pcos) ดังนั้นทางคลินิก Deep & Harmonicare IVF Center แนะนำว่ากลุ่มผู้หญิงที่กำลังเริ่มจะมีประจำเดือน ควรหมั่นไปตรวจสุขภาพภายในอย่างน้อย 1 – 2 ครั้งต่อปี หรือ ทุก ๆ 6 เดือน เพื่อที่จะได้ทราบถึง “สภาวะภายในรังไข่ของตนเอง” ถ้าเกิดตรวจพบว่ามีภาวะที่ความผิดปกติภายในรังไข่ ก็ควรเข้าพบและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อที่จะได้เตรียมตัวรักษาในขั้นตอนถัดไป